Top News

DSI ยึดทรัพย์โกง STARK คาดความเสียหายอาจเกินร้อยล้าน

STARK

DSI จ่ออายัดทรัพย์โกง STARK กว่า 100 ล้าน, กำหนดความผิดว่าเป็น 'ชนินทร์' และสอบบัญชีผู้ให้ข้อมูล, คาดค่าความเสียหายในครั้งนี้เริ่มต้นที่ 35,000-50,000 ล้านบาท และมีโอกาสที่จะเกิน 100,000 ล้านบาท


จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เรื่องการตรวจพบความผิดปกติในงบการเงินของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (STARK) ภายใต้คดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 พบว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นโดยกรรมการหรือผู้บริหารหรือบุคคลอื่น ซึ่งฝ่ายกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ

หลังจากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันประชุมเพื่อกำหนดแนวทางในการสืบสวนและตรวจสอบเพื่อค้นหาตัวผู้กระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงของบริษัท STARK นี้

อธิบดี DSI ได้สั่งให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฉ้อโกงของบริษัท STARK และจะเร่งพยายามติดตามทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมากเพื่อคืนค่าให้แก่ผู้เสียหาย คาดค่าความเสียหายในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะสูงถึง 35,000-50,000 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้นและทะยานไปสู่ 100,000 ล้านบาท

การสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทางการเงินและการตัดสินใจในบริษัทสำคัญ คณะสอบสวนได้เชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ ซึ่งรวมถึงกรรมการและผู้เกี่ยวข้องทั้งในกรรมการชุดเก่าและชุดใหม่ของ 4 บริษัทสำคัญ ได้แก่ เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด, อดิสรสงขลา จำกัด, ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, และเอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด พบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำบัญชีและมีบทบาทในการตัดสินใจและการเซ็นอนุมัติต่างๆ

เพื่อที่จะสอบปากคำอย่างครบถ้วนในทุกประเด็น คณะสอบสวนจำเป็นต้องพิจารณาเอกสารประกอบและพยานหลักฐานเพื่อระบุว่าผู้เกี่ยวข้องเหล่านี้รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของขั้นตอนและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับคดี นอกจากนี้ คณะสอบสวนได้ติดต่อนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ STARK เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และได้รียกบริษัท STARK และผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อมูลพยานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและเอกสารการจัดซื้อสินค้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบความครบถ้วนและความสมบูรณ์ของหลักฐานได้ในระดับที่เพียงพอ

เมื่อได้รับข้อมูลที่เพียงพอแล้ว คณะสอบสวนจะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีบุคคลที่เกี่ยวข้องในระดับใดและเกี่ยวข้องอย่างไร และจะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไปตามความเหมาะสม
ตามคำสั่งของ DSI ที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องราวภายในสองสัปดาห์ คณะพนักงานสอบสวนจะต้องทำการรวบรวมเรื่องราวที่ชัดเจนขึ้นเพื่อประกอบกับข้อมูลและพยานหลักฐานที่ได้รับ ทั้งรายชื่อผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ซึ่งอาจมีการติดต่อผ่านสายด่วน 1202 ที่ DSI เปิดให้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีหุ้น STARK สามารถแจ้งความเสียหายเข้ามาได้ การแจ้งความเสียหายนี้จะช่วยในการรวบรวมจำนวนผู้เสียหายและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้

เมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากพยานหลักฐานและข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (ก.ล.ต. และพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.) คณะพนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบกับคำให้การก่อนพิจารณาตั้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด และ DSI จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไปตามคำสั่งที่เหมาะสม

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า